Last updated: 13 ก.พ. 2561 | 2188 จำนวนผู้เข้าชม |
จากผลการวิจัยของ ARK Investment Management Deep Learning จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงถึง 35 เท่าของมูลค่าของ Amazon ซึ่งเท่ากับ 17 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และกำลังจะเคลื่อนย้ายมูลค่าจากธุรกิจในรูปแบบเดิมๆ ไปสู่รูปแบบธุรกิจใหม่ที่เป็นไปในรูปแบบ Data-Driven Economy
อุตสาหกรรมผู้ผลิตรถยนต์ในอนาคตกำลังจะเปลี่ยนไปอย่างมาก โดยอุตสาหกรรมรถยนต์อัตโนมัติรูปแบบใหม่ในลักษณะที่มีการขับเคลื่อนด้วยตัวเอง เช่น รถแท็กซี่ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง (Autonomous Taxis) และในวันนี้แม้ว่าในอุตสาหกรรมผู้ผลิตรถยนต์ จะมีมูลค่าในระดับล้านล้านเหรียญสหรัฐ แต่ก็มีสัญญาณที่ชัดเจนว่า อุตสาหกรรมรถยนต์ในรูปแบบ ridesharing กำลังปรากฎตัวและเติบโตอย่างรวดเร็วถึง 115 พันล้านเหรียญสหรัฐ แล้ว โดยตลาดของ mobility-as-a-service กำลังจะก้าวไปถึง 10 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนปี 2030 และประมาณ 20% ของตลาดนี้จะเป็นการขับเคลื่อนด้วยผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม (platform providers)
3D printing จะเติบโตถึง 41 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2020 โดย McKinsey ได้คาดการณ์ว่า จะมีมูลค่าสูงถึง 490 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2025 ซึ่ง 3D printing กำลังเข้าไปมีบทบาทมากในกระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม
ภายในปี 2020 ประชากรโลกถึง 75% จะมี smartphone ใช้ โดย mobile payment จะมีผลกระทบอย่างยิ่ง จนทำให้การทำธุรกรรมบน smartphone จะโตถึง 15 เท่าในปี 2020 เมื่อเทียบกับปัจจุบัน โดยจะมีมูลค่าสูงถึง 15 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และจะเติบโตในจีนและอินเดียอย่างมาก รวมทั้งในประเทศ emerging market อีกด้วย
หากจะคาดการณ์การเติบโตของตลาดหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ (Robotics and Autumation) ก็อาจเทียบเคียงข้อมูลการเติบโตของหุ่นยนต์ในระบบ warehouse ของ Amazon ที่มีการเติบโตถึง 50 เท่าตัวจากปี 2014 ซึ่งถือว่าเป็นยุคเริ่มต้นของหุ่นยนต์เท่านั้น และยากที่จะคาดการณ์อย่างยิ่ง เพราะมันจะเติบโตอย่างมหาศาล
ส่วนตลาดของ Blockchain จะก้าวไปสู่ตัวเลข ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ภายใน 10 ปี และมันกำลังจะเป็นเผือกร้อนของอุตสาหกรรมการให้บริการทางการเงินอย่างยิ่ง
https://singularityhub.com/…/the-disruptive-technologies-…/…
จากผู้เขียน
Blockchain + IoT + 5G + Big Data + AI จะทรงพลังด้วยการรวมพลังในปี 2030 และกำลังเป็น Megatrend ในแวดวงนักยุทธศาสตร์ระดับชาติทั่วโลกแล้วในวันนี้ เพราะเทคโนโลยีกำลังจะเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่จะทำให้ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน สามารถร่วมกันทำงาน (Collaboration) เพื่อทำให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจในยุค Industry 4.0 และทำให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน โดยเทคโนโลยีดังกล่าวจะสร้างงานรูปแบบใหม่ที่สอดคล้องกับความต้องการของโลก เพิ่มคุณภาพในด้านการผลิต และทำให้การทำงานของภาครัฐและเอกชนมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ประเทศที่ตามไม่ทันอาจตกยุคอย่างรวดเร็ว ดังนั้นผู้นำและผู้บริหารทั้งภาครัฐและภาคเอกชนไม่ควรประมาท และควรระมัดระวังการก้าวเดินในระดับยุทธศาสตร์และกลยุทธ์
------------------
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ
กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
ประวัติ: http://www.xn--42cf0a8cxa3ai5ple.com/?p=165
26 พฤศจิกายน 2560
www.เศรษฐพงค์.com
13 ก.พ. 2561
13 ก.พ. 2561
13 ก.พ. 2561
12 มี.ค. 2561