Last updated: 14 ก.ย. 2559 | 694 จำนวนผู้เข้าชม |
เป็นข้อมูลที่ดีมากๆที่คนมีบัตรCredits แล้วถูกขโมยนำไปใช้ มีคนนำไปรูดปรื้ด ๆ ยังต้องจ่ายให้แบงก์หรือไม่ ?
บางคนอาจจะถามว่าในเมื่อเราไม่ได้เป็นคนใช้บัตร ทำไมเราต้องรับผิดในมูลหนี้ที่เราไม่ได้ก่อขึ้น มันยุติธรรมแล้วหรือ ?
ประเด็นข้อกฎหมายที่น่าสนใจประการหนึ่งเกี่ยวกับบัตรเครดิต คือ การที่บัตรถูกลักไป หรือบัตรสูญหาย แล้วปรากฎว่ามีคนนำบัตรไปใช้ซื้อสินค้า กรณีนี้ เจ้าของบัตรยังต้องรับผิดชำระเงิน ให้กับทางธนาคารเจ้าของบัตรหรือไม่ ?
กรณีดังกล่าว
มีคำพิพากษาในปี ๒๕๕๐ และ ๒๕๕๒ ออกมาตรงกัน นั่นคือ #เจ้าของบัตรไม่ต้องรับผิด โดยให้เหตุผลไว้ดังนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๒๘๔๐/๒๕๕๐ “ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บัตร ระบุว่า บัตรเครดิตนี้ธนาคารได้ออกให้ และสงวนไว้เฉพาะผู้ถือบัตรเท่านั้น ห้ามมิให้ผู้ถือบัตรยินยอมอนุญาต หรือนำบัตรเครดิตไปให้บุคคลอื่นใช้ ดังนั้น กรณีที่มีบุคคลอื่นนำบัตรเครดิตของโจทก์ที่ออกให้แก่จำเลยไปใช้ชำระค่าสินค้าและค่าบริการแก่สถานประกอบกิจการและร้านค้าเป็นการใช้บัตรเครดิตซึ่งมิได้เป็นไปโดยถูกต้องตามประเพณีปฏิบัติและ/หรือเงื่อนไขการใช้บัตรเครดิตของโจทก์จำเลยซึ่งเป็นผู้ถือบัตรเครดิตจะต้องรับผิดชำระหนี้อันเกิดจากการที่มีบุคคลอื่นนำบัตรเครดิตของโจทก์ไปใช้ต่อเมื่อจำเลยได้ยินยอมอนุญาตหรือนำบัตรเครดิตของโจทก์ไปให้บุคคลอื่นใช้
การที่บัตรเครดิตของจำเลยถูกคนร้ายลักไปย่อมแสดงให้เห็นว่า จำเลยมิได้ยินยอมอนุญาต หรือนำบัตรเครดิตของโจทก์ไปให้บุคคลอื่นใช้ตามข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บัตรเครดิตแต่อย่างใดจำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชำระหนี้ที่บุคคลอื่นนำบัตรเครดิตของโจทก์ไปใช้”
ต่อมา ทางสถาบันการเงินต่าง ๆ จึงเพิ่มข้อสัญญาในการเปิดใช้บัตรเครดิต ว่าเจ้าของบัตร จะต้องรับผิดชดใช้ แม้ว่าบัตรนั้นจะสูญหาย หรือถูกลักไปใช้ก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๙๘๙/๒๕๕๒ ออกมาว่า ข้อสัญญานั้น เป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม เจ้าของบัตรไม่ต้องรับผิดอยู่ดี
โดยให้เหตุผลว่า
“เป็นการเอาเปรียบจำเลยเกินสมควร และเป็นการผลักภาระให้จำเลยต้องรับผิดเกินกว่าวิญญูชนทั่วไปจะคาดหมายได้ตามปกติ อันเข้าลักษณะข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม...”
สรุปก็คือ
"กรณีที่บัตรถูกลักไปใช้ เจ้าของบัตรไม่ต้องรับผิดชอบชำระเงินให้แก่ธนาคารเจ้าของบัตรเครดิต" มีคำแนะนำสำหรับผู้ที่ทำบัตรหาย หรือบัตรถูกลัก เพื่อเป็นแนวทางในการต่อสู้คดี นั่นคือ
๑. ต้องรีบไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร็วที่สุดและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน #เพื่อเป็นการแสดงความกระตือรือร้นและความบริสุทธิ์ใจในการพิทักษ์ปกป้องสิทธิ์
๒. ต้องรีบนำหลักฐาน คือ ใบแจ้งความ หรือบันทึกประจำวันไปที่ธนาคารเจ้าของบัตรเพื่ออายัดบัตร (ข้อนี้สำคัญมาก)
๓. ต้องแสดงตัวว่าเราไม่ได้ใช้บัตรเครดิต เช่น ลายเซ็นต์การรูดบัตรและที่สำคัญต้องแสดงเวลาว่าในขณะที่มีการรูดบัตรเราอยู่คนละที่ พร้อมมีพยานรู้เห็นหรือยืนยันได้
๔. ยังไม่ต้องชำระเงิน เพราะถ้าจ่ายไปเท่ากับยอมรับในหนี้นั้น ทั้งนี้ธนาคารก็อาจยังคงเรียกเก็บเงินอยู่เหมือนเดิม ถึงแม้ว่าเราจะดำเนินการตามขั้นตอนที่ได้กล่าวมาแล้วก็ตาม ซึ่งถ้าทางธนาคารฟ้องก็ต้องต่อสู้กันตามขั้นตอนของศาล จะชนะหรือแพ้ก็อยู่ที่การพิสูจน์ว่า
#หลักฐานที่ใช้อ้างอิงนั้นจะมีน้ำหนักมากน้อยเพียงใด ครับ
ขอบคุณภาพจาก : hamc-nomads-turkey.com
#สุขกายสบายใจ
13 ก.พ. 2561
13 ก.พ. 2561
12 มี.ค. 2561
13 ก.พ. 2561