Last updated: 4 ก.ย. 2560 | 930 จำนวนผู้เข้าชม |
"เฉพาะชื่อของคนหนึ่งชื่อ ราคาแปดพันล้าน"
สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศเยอรมันมีบริษัททรัสท์เล็กๆ แห่งหนึ่งชื่อ บ.บาบีนา รับดูแลของมีค่าของลูกค้าโดยเฉพาะ
พอสงครามปะทุ ลูกค้าทยอยเบิกของมีค่าของตัวเองแล้วรีบหนีไปที่อื่นกัน
ส่วนเจ้าของบริษัทรวบรวมทรัพย์สินของตนแล้วก็หนีสงครามไปที่อื่น เหลือแต่พนักงานที่ชื่อ "เซีย" ยังอยู่เพื่อเคลียของฝากที่ลูกค้าที่ยังไม่เบิกไป
ระเบิดเริ่มถล่มลงมาบริเวณรอบๆบริษัท แต่เธอยังคงนั่งเช็คบัญชีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วพบว่ามีลูกค้าชื่อไลเกอร์ยังไม่ได้มาเบิกทับทิมของตนเองซึ่งมีราคาห้าพันล้านมาร์ค
เซียเก็บเอกสารและสิ่งของที่ลูกค้าฝากไว้เก็บใส่กล่องแล้วก็ออกจากบริษัท หลังจากนั้นไม่กี่วันบริษัทบาบีนาถูกระเบิดถล่มเรียบเป็นน่ากอง
เซียเองก็เหมือนชาวบ้าน
ต้องหนีสงครามไปทุกระหนแห่ง แต่สิ่งที่เซียต้องพกติดตัวตลอดก็คือเอกสารและทับทิมของลูกค้าที่ฝากไว้
เธอเองยังคงคิดว่า เธอคือพนักงานของบริษัทบาบีน่า จะรอให้สงครามสงบแล้ว จะนำเอกสารและทับทิมคืนให้กับบริษัท
หลังจากสงครามสงบ เธอและลูกสามคนกลับมาที่เบอร์ลิน แต่เจ้าของบริษัททรัสท์ได้เสียชีวิตในระหว่างสงคราม บริษัทก็ไม่เหลืออยู่โดยปริยาย
แต่เซียยังคงเก็บรักษาทับทิมของลูกค้าเอาไว้
แม้ลูกค้าจะยังไม่มารับไป เธอรักษาความซื่อสัตย์ของบริษัทเอาไว้
หลายปีผ่านไปเซียใช้ชีวิตลำบากมากกับลูกสามคน
ในความเป็นจริง บริษัทไลเกอร์ไม่เหลืออยู่แล้วในระหว่างสงคราม ทับทิมที่มีค่ามหาศาลนั้น
เจ้าของก็ไม่รู้อยู่ที่ไหนแล้ว เซียสามารถนำทับทิมที่มีค่ามหาศาลนี้ไปขาย
แล้วใช้ชีวิตอย่างสุขสมบูรณ์ได้โดยไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย
แต่เธอไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย เธอคิดอย่างเดียว
มัน คือ หน้าที่ของเธอ จะไม่ทำในสิ่งที่ไม่ควร
ในปี 1978 รัฐบาลต้องการสร้างภิพิทธพันธ์สงครามโลกครั้งที่สอง เซียได้นำเอกสารและทับทิมออกมามอบให้
ทางรัฐบาลพยายามทุกวิถีทางหาญาติของไลเกอร์จนพบหลานชื่อโดล และได้ตอบรับจะแบ่งให้ครึ่งหนึ่งหลังจากขายทับทิมได้ เซียปฏิเสธจะขอรับแต่ค่าแรงที่ดูแลรักษาเอกสารและทับทิมนี้ก็พอ
หลังจากเรื่องนี้ถูกตีพิมพ์เป็นข่าวออกไป ผู้คนสะเทือนใจกับความซื่อสัตย์นี้เป็นอย่างมาก
มีคนให้เสนอเธอเป็นที่ปรึกษาของหอการค้า เธอปฏิเสธว่าด้วยอายุมากแล้ว
ต่อมามีบริษัท ทรัสท์ใหญ่หลายบริษัท
ขอให้เธอดำรงตำแหน่งประธานกิตติมศักดิ์ เธอปฏิเสธหมด
ไม่นานนัก เธอก็ถึงแก่กรรม
หลายบริษัทมาหาลูกชายเซียชื่อคลิสขอซื้อสิทธิ์"เซีย"มาเป็นชื่อบริษัทของตน
คลิสจึงใช้วิธีประมูล สุดท้ายบริษัทเพลโตประมูลได้ด้วยราคาแปดพันล้านมาร์ค
หลายคนไม่เข้าใจทำไมต้องใช้เงินมหาศาลเช่นนี้เพื่อแลกซื้อกับแค่ชื่อเดียว
ประธานบริษัทเพลโต
"เซีย"ไม่ใช่แค่ชื่อคนคนหนึ่งแล้ว มันหมายถึงจิตวิญญานแห่งความซื่อสัตย์และสัจจะของผู้ประกอบการ
มันคุ้มมากสำหรับการใช้เงินแปดพันล้านมาแลกซื้อชื่อนี้
ไม่นานนักบริษัทเพลโตเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทเซียทรัสท์ ทำให้ยอดทางธุรกิจเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
ความซื่อสัตย์และสัจจะ
เดิมทีแล้วมันมีคุณค่าของมันอยู่ในตัวอยู่แล้ว
เวลาคุณมีความศรัทธากับมันจนเป็นหน้าที่ของคุณ คุณก็จะได้ใจและความเชื่อถือกับผู้คน ในที่สุด
เงินทองจะไหลมาเทมา
13 มี.ค. 2561
13 มี.ค. 2561
13 มี.ค. 2561
13 มี.ค. 2561