เรื่องเล่าจากหลวงตา ณ วัดบ้านไร่แห่งหนึ่ง

Last updated: 6 ก.ย. 2559  |  805 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ณ วัดบ้านไร่แห่งหนึ่ง

หลวงตาเพิ่ง กลับจากการบิณฑบาต

เห็นลูกศิษย์วัดนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น

จึงเข้าไป ถามไถ่ว่าเป็นอะไร

ลูกศิษย์ตอบกลับมาว่า

‘ผมถูกใส่ร้าย ผมไม่ได้ขโมยเงินในหอพระ

แต่ผมเข้าไปปัดกวาดเช็ดถูบ่อย ๆ

ทุกคนก็หา ว่าผมเป็นขโมย ไม่มีใครเชื่อผมเลย ฮือ ฮือ ‘

หลวงตา นั่งลงข้าง ๆ พยักหน้าเข้าใจแล้วสอนลูกศิษย์ว่า

‘เจ้ารู้ไหม ในตัวเรามีคนอยู่สามคน

คนแรกคือ คนที่เราอยากจะเป็น

คนที่สองคือ คนที่คนอื่นคิดว่าเราเป็น

คนที่สามคือ ตัวเราที่เป็นเราจริง ๆ’

ลูกศิษย์หยุดร้องไห้ นิ่งฟังหลวงตา

‘คนเราล้วนมีความฝัน ความทะยานอยาก

ตามประสา ปุถุชนทั่วไป ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย

บางครั้งความฝันก็เป็นสิ่งสวยงาม

เป็นพลังที่ทำให้เรา ก้าวเดิน

เช่น บางคนอยากเป็นนักร้อง เป็นนักมวย เป็นดารา

ถ้าถึงจุด หมายเราก็จะรู้สึกว่าโลกนี้ช่างสว่างไสวสวยงาม

ดังนั้นเราควรมีความฝัน ไว้ประดับตน เพื่อเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงหัวใจ ‘

มาถึงไอ้ตัวที่สอง จะเป็นเราแบบที่คนอื่นยัดเยียดให้เป็น

บางครั้งก็ยัดเยียดว่าเราดีเลิศ จนเราอาย

เพราะ จิตสำนึกเรารู้ดีว่ามันไม่จริงหรอก

แต่เราก็ยิ้มรับ แต่บางครั้งไอ้ตัวที่สองนี้ก็มหาอัปลักษณ์

จนไม่อยากจะนึกถึง ซ้ำร้ายยังเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

เพราะมัน เป็นโลกในมือคนอื่น มันเป็นสิ่งแปลกปลอมที่คนอื่นยื่นให้ ‘

อย่างคนขับสิบล้อจอดรถอยู่ข้างทางเฉย ๆ

เช้ามาพบศพใต้ท้องรถ ก็ต้องขับรถหนี

ทั้งที่ศพนั้น ถูกรถชนตายอีกฝั่งแล้วดันถลามาใต้ท้องรถ

แต่ ขึ้นชื่อว่าเป็นคนขับสิบล้อ บางคนก็ตัดสินไปแล้วว่าเขาเป็นฆาตกร’

สมัยที่หลวงตายังไม่ได้บวชเคยไปส่งเพื่อนผู้หญิงที่ม ีผัวแล้ว

เพราะเห็น ว่าบ้านเป็นซอยเปลี่ยว ส่งได้สองครั้งก็เป็นเรื่อง

ชาวบ้านซุบซิบนินทา หาว่าเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน

คนที่เห็นนั้นมองคนอื่นด้วยใจที่หยาบช้า ไร้วิจารณญาณ ใจแคบ

มองคนอื่นผ่านกระจกสีดำแห่งใจตัวเอง คนเหล่านี้มีอยู่ทั่วไปในสังคม

เจ้าต้องจำไว้นะ ทุกครั้งที่เราว่า คนอื่นเลว คนอื่นไม่ดี

ก็เท่ากับเราประจานความมืดดำในใจตัวเองออกมา

เห็นสิ่งไม่ดีของใครจงเตือนตัวเองว่าอย่าทำ อย่าเลียนแบบ

นั่นแหละวิถีของนักปราชญ์ ถ้าเอาไปว่าร้ายนินทาเรียกว่าวิถีของคนพาล

‘ แล้วเรา ต้องทำตัวอย่างไรละครับในเมื่อเราต้องเจอคนเหล่านั้น เรื่อย ๆ’

ลูกศิษย์ หยุดร้องไห้แล้วเริ่มสนทนาโต้ตอบหลวงตา

เจ้าต้องทำความ เข้าใจจิตใจมนุษย์

เรียนรู้ว่าความเข้าใจ ผิดเกิดขึ้นได้

เราห้ามใจใครไม่ได้ สิ่งใดที่เราไม่ได้ทำ ไม่ได้คิด ไม่ได้เป็น

แต่คนอื่นคอยยัดเยียดให้เรา เราก็ไม่ควรให้ความสำคัญ

เพราะเราสัมผัสได้ว่าสิ่งนั้นไม่มีอยู่จริง ใจเราควรสงบนิ่ง

ยังไม่ต้องชำระ ใจคนอื่นต่างหากที่ควรซักฟอกให้ขาวสะอาดกว่าที่เป็นอ ยู่

เขาเหล่านั้น เป็นบุคคลที่น่าสงสารมีเวลามองคนอื่น

แต่ไม่มีเวลามองตัวเอง จงแผ่เมตตาให้เขาไป เข้าใจใช่ไหม’

Powered by MakeWebEasy.com